วันจันทร์ที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

รู้จักกันนานแล้วแต่ไม่เคยได้แนะนำตัวอย่างเป็นทางการเลย

สวัสดีครับ เพื่อนๆพี่ๆ สมาชิก Thaimazdacx5club ที่รักทุกท่าน

!!! ใครอ่านจบรับของพิเศษจากผมได้ที่โรงงานผมนะครับ มีหลอกล่อเพราะกระทู้เขียนย๊าว ยาววว !!!

        วันนี้แค่เกริ่นนำก็ดูเป็นทางการเหลือเกิน นั้นละครับ วันนี้ผมจะมาแนะนำตัวอย่างเป็นทางการนั้นเองครับ หลังจากที่หลายๆคนในคลับได้เห็นผลงานหลายๆผลงานจากหลายกระทู้ของผมก็อาจจะอดนึกสงสัยไม่ได้ว่า แท้ที่จริงแล้วผมทำสิ่งเหล่านี้ทำไม หลายคงอาจเข้าใจว่าผมเป็นร้านแต่งรถ ขายอะไหล่หรืออุปกรณ์ตกแต่ง CX-5 ของเรา มีส่วนได้ส่วนเสียอะไรเป็นพิเศษหรือเปล่า?? จึงเป็นที่มาของกระทู้นี้ครับ
        ที่จริงแล้ว...... ที่จริงแล้วผมยังไม่เคยบอกใครเลยว่าผมชื่ออะไรทำอะไร ผมชื่อ โม ครับหรือที่พี่ๆในนี้หลายๆคนเรียกติดปากว่าน้องโม(ที่เค้าเรียกว่าน้องก็เพราะว่าตอนที่ผมเข้ามาเล่นในคลับนี้และไปเจอกันตามมิตติ้งตอนนั้นผมอายุยังนำหน้าด้วยเลข 2 อยู่ครับ ถึงแม้ว่าหน้าตาอาจแซงตัวเลขไปแล้วก็ตาม) ส่วนอาชีพหรืองานหลักในการหาเงินมาผ่อนรถของผมก็คือ (จริงๆแล้วผมไม่ค่อยอยากบอกเท่าไร ผมไม่ได้ตั้งใจโฆษณานะครับ หวังว่าพี่ๆคงเข้าใจ) งานหลักของผมคืองานรับเปลี่ยนสีล้อแม็กให้ล้อแม็กเดิมที่ติดรถของเรานั้นสวยมากขึ้นกว่าเดิมและก็งานซ่อมล้อแม็กที่มีปัญหารอยครูดหรือว่าล้อแม็กดุ้งครับ ส่วนสาเหตุที่คราวนี้ต้องบอกนั้นเพราะว่าหลายๆคนที่พยายามติดต่อเข้ามาเพื่อให้ผมทำหลายๆอย่างเกี่ยวกับรถให้ซึ่งสิ่งเหล่านี้มันไม่ใช้งานหลักของผมแปลว่าผมไม่ได้ต้องการรายได้จากส่วนนี้นะครับ
        แล้วอะไรล่ะที่ทำให้ผมทำอะไรต่างๆเพื่อรถของผมและทำเผื่อพี่ๆทุกๆคน คำตอบนั้นง่ายมากครับ
1. ผมชอบทำอะไรเกี่ยวกับรถ ผมพอทำอะไรได้เล็กน้อย การติดตั้งหรือดัดแปลงอะไรบนรถผม ส่วนใหญ่ผมจะเป็นคนลงมือทำด้วยตัวเองครับ ผมชอบ DIY จนพี่เล็ก Samsuay ตั้งฉายาให้ผมว่า DIM หรือ Do It by Mo ครับ
2. ข้อนี้เป็นข้อที่สำคัญมากและทำให้ผมพยายามทำทุกอย่างอย่างเต็มที่เท่าที่เวลาว่างนั้นเอื้ออำนวย ส่ิงนั้นก็คือ มิตรภาพ ครับ ผมได้รับการดูแลจากพี่ๆ Admin และพี่ๆสมาชิกหลายๆท่านในคลับในหลายๆเรื่อง ครั้งนึงตอนผม DIY ระบบไฟด้านท้ายรถปรากฏว่าเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดขึ้น ทำให้กล่องสมองกลด้านท้ายรถของผมเกิดลัดวงจร ผมจึงไปทำเรื่องเปลี่ยนใหม่ที่ศูนย์บริการ แต่สิ่งที่ผมได้กลับมาคือคำปฏิเสธว่าไม่สามารถเปลี่ยนให้ได้ ซึ่งก็แน่นอนล่ะเพราะว่าผมซนไปทำมันเสียเองแหละ ผมปรึกษากับพี่ในคลับที่เราเพิ่งเจอกันได้แค่ 2 ครั้งผมเล่าให้พี่เค้าฟัง และแล้วพี่เค้าก็บอกว่า "ไม่เป็นไรโม เอาอย่างนี้แล้วกันเดี๋ยวโมเอาของพี่ไปแล้วกันนะ แล้วพี่จะไปจัดการทำเรื่องเปลี่ยนเอง" ตาผมลุกเป็นประกาย พี่เป็นใครเนี๊ยะ ทำไมพี่ต้องดีกับผมด้วย พี่คนนั้นคือพี่น้อยหรือ อ.น้อย Noisyboy ที่หลายๆคนคงรู้จักนั้นแหละครับ และนี้เป็นเหตุการณ์นึงในหลายๆเหตุการณ์ที่ผมรู้สึกว่าพี่ๆหลายๆคนในนี้ดีมากๆ ยังมีอีกหลายความประทับใจไม่ว่าจะเป็นพี่ชิงที่คอยให้คำปรึกษาเรื่องเกี่ยวกับระบบไฟฟ้าในหลายๆจุดของรถเราที่ผมเข้าไม่ถึงแต่พี่ชิงสอนและแนะนำแถมยังให้อุปกรณ์หลายๆมาเพื่อจัดการปัญหาด้วย พี่ปรีดาที่ช่วยจัดการเรื่องตัวเอนเบาะหลัง หลายๆคนอาจจะไม่รู้ว่าเอนเบาะหลังที่แท้พี่ปรีดาจากชลบุรีนี่แหละปิดทองหลังพระตัวจริงเลย และเร็วๆนี้มีพี่คนนึงส่งข้อความส่วนตัวมาถึงผมและได้ส่งเอกสารที่จะช่วยให้การ DIY ของผมผ่านไปอย่างราบรื่นมากยิ่งขึ้น และยังอีกหลายๆท่านไม่ว่าจะเป็นพี่เบิร์ด พี่ออฟ น้องแมน หลายคนเลยครับ แต่อีกหนึ่งคนที่ทำให้มุมมองผมเปลี่ยนไปเลยคือพี่แต๋งครับ ทุกสิ่งทุกอย่างที่กล่าวมามันสุดยอดดตรงที่ ไม่เคยต้องเสียเงินเลยพี่ๆให้ด้วยใจจริงๆ หลายสิ่งและพี่หลายท่านเหล่านี้เป็นเหตุผลที่ผมอยากจะทำอะไรให้คนอื่นบ้างแบบที่ไม่ได้ลำบากตัวเองมากนักหรือบางครั้งก็มีบ้างแต่แลกกับรอยยิ้มและความสุขมันก็คุ้มค่ามากครับ
          คราวนี้มาถึงอีกประเด็นสำคัญอีกประเด็นนึงที่ผมพยายามหาหรือทำข้อมูลดีๆมาให้ไม่ว่าจะเป็นตัวปรับเอนเบาะที่ช่วยแก้ปัญหาเบาะหลัง การล้างทำความสะอาด MAP หรือ IAT ไฟท้าย หรือ Paddleshift ก็คือ ผมเป็นส่วนนึงของ Admin ซึ่งมีหน้ารักษาผลประโยชน์ของสมาชิกและรักษาฐานข้อมูลที่ใหญ่และสำคัญที่สุดของรถของเราไว้ก็คือ บอร์ดของเรานั้นเองครับ ผมอยากให้มีคนเข้ามาเล่นหรือมาดูในบอร์ดของเราบ้างครับ ถึงแม้เราจะหนีความจริงของโลกที่หมุนเร็วขึ้นจนยุคของการเล่นบอร์ดมันแทบจะตายไปแล้ว การพูดคุยในไลน์หรือ FB เข้ามามีบทบาททำให้เราไม่ต้องเข้ามาเล่นในบอร์ดเราต้องการรู้อะไรสงสัยอะไรเราถามกันเองได้ แน่นอนต้องมีคนรู้มาตอบให้เราอย่างแน่นอน แต่สิ่งนึงที่กำลังหายไปคือฐานข้อมูลของปัญหาและการแก้ปัญหามันจะหายไปเหมือนข้อความที่วิ่งไปเร็วบนไลน์หรือ Timeline นั้นเองครับ ผมอยากเก็บข้อมูลดีๆเหล่านี้ไว้ให้กับสมาชิกคนอื่นๆที่อาจจะมีปัญหาคนละเวลากับเราเค้าจะได้เข้าไปหาข้อมูลและวิธีแก้ไขปัญหาที่จะทำให้เค้ามีความสุขได้ครับ และนั้นแหละครับคือการแบ่งปันประสบการณ์ในการใช้รถอย่างแท้จริงที่จะทำให้สังคมของเราเต็มไปด้วยรอยยิ้มมากขึ้นครับ
        ท้ายที่สุดนี้ผมอยากจะฝากถึงเพื่อนๆพี่ๆทุกท่านให้เข้าใจวัตถุประสงค์ในการที่จะต้องมีการผลักดันให้เข้ามาเล่นในบอร์ดกันมากขึ้นครับไม่ว่าจะเป็นการนำเอาตัวเอนเบาะมาทำเป็นกระทู้ ทำไม่ต้องมาโพสกันให้ได้ 50 กระทู้ด้วย ถึงจะได้มา พี่กวางแอดมินคนนึงเคยพูดกับผมว่า "กระทู้สำหรับบางคนไม่ไม่ได้สำคัญหากเราได้รู้จักและพูดคุยกันอย่างเป็นกันเอง มามิตติ้งกันไปเที่ยวและทำกิจกรรมร่วมกันเหมือนครอบครัวเดียวกัน คลับนี้ยังมีกิจกรรมแบบนี้อยู่นะครับ พวกเรารอต้อนรับสมาชิกใหม่ๆอยู่เสมอ เปิดใจแล้วมาเป็นครอบครัวเดียวกันและคุณจะรู้ว่า ความรักความอบอุ่นจากสังคมของคนที่ใช้รถรุ่นเดียวกันอยู่ มีจริงที่ Thaimazdacx5club ครับ"

ปล.กระทู้ตัวอักษรล้วนๆที่ตั้งใจเขียนเพื่อให้ทราบว่าพวก Admin ทำอะไรกัน

"เริ่มด้วยเรื่องส่วนตัวจบลงด้วยเรื่องส่วนรวม"
จากใจ Admin ที่อายุน้อยที่สุด
น้องโม #ทีมน้องโม


วันพฤหัสบดีที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

DIY : ติดตั้ง Paddle shift CX-5

สวัสดีครับเพื่อน พี่ น้อง สมาชิก CX-5 Club Thailand ทุกท่าน


        สำหรับวันนี้ก็เป็นอีกวันที่เราจะมาปลดฟังก์ชั่นลับของ Mazda CX-5 ที่ขายในไทยอีกหนึ่งฟังก์ชั่นกันครับ ซึ่งนั้นก็คือ Paddle Shift หรือ แป้นหรรษาที่มีไว้เปลี่ยนเกียร์ได้อย่างสะดวกที่คอพวงมาลัยของเราครับ สำหรับเจ้าอุปกรณ์ตัวนี้ถือได้ว่าเป็นอุปกรณ์มาตราฐานที่ถูกติดตั้งจากโรงงานผู้ผลิตในรถที่จำหน่ายในประเทศญี่ปุ่น 
        ส่วนสาเหตุหรือเหตุผลที่ผมอยากเพิ่มฟังก์ชั่น Paddle Shift เข้าไปนี้ก็เพราะว่า เหตุผลหลักที่ผมชอบมากๆก็คือ อุปกรณ์ตัวนี้เป็นอุปกรณ์ตรงรุ่นที่สามารถเปลี่ยนเกียร์ได้แม้ว่าจะอยู่ในโหมด D แบบปกติก็ตาม นั้นก็แปลว่ามันส์นะสิครับ ลองจิตนาการตามดูนะครับว่ามือของเรายังอยู่ที่พวงมาลัยตลอดเวลาเราสามารถเร่งแซงด้วยการดึง Paddle Shift ด้านซ้ายเข้าหาตัวเอง ทันใดนั้นรอบเครื่องของเราก็สูงขึ้น  เพราะว่าเกียร์ลดต่ำลง ความเร็วก็จะเพิ่มตาม เราจะสามารถแซงได้อย่างมั่นใจ มือทั้งสองของเรายังคงอยู่ที่พวงมาลัยมีควบคุมทิศทางอย่างถูกต้องอยู่ ทันใดนั้นเมื่อเราแซงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ระบบคอมพิวเตอร์ของเกียร์ก็เปลี่ยนเกียร์จากโหมด Dm ให้กลับเป็นโหมดเกียร์ D ปกติ   นี่แหละครับมันช่างเป็นการแซงที่สมบูรณ์แบบซะจริงๆ 55 บางทีผมก็ไม่สามารถอธิบายเป็นคำพูดได้ แต่ขอบอกเลยว่า ถ้าให้มาตั้งแต่แรกชีวิตจะดีมากๆ หรือ หากใครเลยลองใช้เกียร์แบบ Manual ที่เกียร์ของ CX-5 ของเราจะรู้ว่ามันกลับกันระหว่างการถอดเกียร์ลงกับใส่เกียร์ขึ้นซึ่งนั้นแปลว่าเวลาขับมาแล้วเราต้องการเร่งแซงด้วยการลดเกียร์ลงเรามันจะใส่เกียร์พลาดเป็นเกียร์ขึ้นครับ ก็แปลว่าแซงไม่พ้นมีเสียวกันไปอีก และนี้แหละครับเป็นเหตุผลที่ผมพยายามที่จะมีมันให้ได้
        หลังจากที่ผมได้ใช้เวลาอยู่นานในการหาอุปกรณ์แท้จากมาสด้าโดยตรง ในที่สุดผมก็เจอเป็นที่เรียบร้อยครับ กับชุด Paddle Shift ของ Mazda CX-5 ของเราครับ ซึ่งใน 1 ชุดจะประกอบไปด้วย 
1. ที่ครอบพลาสติกด้านหลังพวงมาลัยแบบมีช่องสำหรับใส่ Paddle Shift แบบตรงรุ่นที่ไม่ต้องตัดต้องเจาะให้เสียของแต่อย่างใด
2. แป้น Paddle Shift ด้านซ้ายมีสัญลักษณ์ "-" เพื่อใช้ลดเกียร์ และด้านขวาที่มีสัญลักษณ์ "+" เพื่อใช้ในการเพิ่มเกียร์ครับ


3. ชุดสายไฟแบบตรงรุ่นที่สำหรับคอพวงมาลัย CX-5 โดยเฉพาะที่ไม่ต้องไปตัดสายไฟเดิมให้เสียวเรื่องระบบไฟรวนครับ

สำหรับวิธีการติดตั้งจะไม่ขออธิบายนะครับเนื่องจากมีความซับซ้อนและเสี่ยงที่จะทำเองครับ
หลังจากที่เราประกอบไปแล้วก็จะได้แบบนี้ครับ



และแล้วในที่สุดเราก็จะได้ Paddle Shift มาเป็นของเราครับ ^_^

















วันพฤหัสบดีที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2558

DIY เปลี่ยนโคมไฟท้ายเดิมให้เป็นไฟท้าย US Spec

สวัสดีครับ

        สำหรับในบทความในครั้งนี้จะเป็นการ DIY เปลี่ยนไฟ้ทายเดิมของรถเราให้มีไฟหรี่ด้านข้างเพิ่มขึ้นอีก 1 ตำแหน่งตามแบบของ Spec US ครับ ตัวอย่าง Mazda CX-5 ที่เป็นรุ่น US Spec จะเป็นแบบนี้ครับ

หลังจากที่เราได้เห็นแล้วว่าโคมเดิมของเรามีไฟหรี่เพิ่มขึ้นมาในส่วนของมุมไฟหลังได้แปลว่ามันต้องเป็นออฟชั่นที่ถูกปลดออกเป็นแน่แท้เหมือน Paddle Shift ของเราครับ ดังนั้นจึงนำมาสู่การ DIY ในครั้งนี้ครับ

เริ่ม DIY กันเลยดีกว่าครับ 
    เริ่มจากส่วนแรกคือการถอดไฟท้ายออกมาครับ โดยวิธีถอดคือให้ถอดตามคู่มือของมาสด้า เรื่องการบำรุงรักษาด้วยตัวเอง หน้า 6-40 ครับ
หลังจากที่เราถอดฝาปิดพลาสติกออกแล้วเราจะเห็นแบบนี้ครับ

หมุนเอาหลอดไฟออกจากช่อง และใช้บล็อกเบอร์ 10 ขันนอตตัวเมียที่ยึดโคมอยู่ 3 ตัวแล้วดึงโคมออกตรงๆไปทางท้ายรถได้เลยครับ

ดึงโคมออกมาแล้วจะเป็นแบบนี้ครับ

ตำแหน่งที่ผมชี้ด้วยลูกศรสีเหลืองคือตำแหน่งที่เราจะเจาะรูขนาด 15 มม.และเพิ่มหลอดไฟหรีใหม่เข้าไปครับ


ขั่วของหลอดไฟที่เราจะใช้จะเป็นขั้วหลอดไฟ T10 แบบยางครับ หน้าตาเป็นแบบนี้นะครับ


หลังจากเจาะรูแล้วแนะนำให้เอาเครื่องดูดฝุ่นดูเศษที่เกิดจากการเจาะก่อนใส่หลอดเข้าไปนะครับ

ทำความสะอาดแล้วก็ประกอบหลอดเข้าไปด้วยการฝืนเข้าไปครับ รูที่ผมให้เจาะจะเล็กหน่อยนะครับ เพราะว่าผมคิดว่าไม่อยากให้ไม่มีช่องให้น้ำซึมเข้าไปได้ครับ เพราะฉะนั้นออกแรงหน่อยนะครับ

เสร็จขั้นตอนนี้เราก็เอาไปประกอบกลับแล้วก็ไปต่อสายไฟอีกทีครับ


ปลั้กไฟจกมีสองตัวนะครับตัวนึงคือปลั้กของไฟเลี้ยวอีกตัวที่เราจะต้องเอาไฟมาคือปลั้กไฟท้ายและไฟเบรคครับ จุดสังเกตก็คือปลั้กตัวนี้จะเป็นตัวที่มีขนาดใหญ่กว่าและมีสีของสายไฟตามนี้นะครับ ให้เราค่อยๆปลอกเทปพันสายไฟสีดำออกตามรูปครับ

ปลอกเสร็จแล้วเราก็ต่อสายไฟเข้าไปตามนี้นะครับคือ 1 เส้นต่อกับสายสีชมพูคาดดำสายนี้จะมีไฟ 12V มาตอนเราเปิดไฟหรี่ครับ และอีก 1 เส้นต่อเข้าสีดำคาดเหลืองครับ สำหรับวิธีของผมคือใช้ตัวต่อสายไฟแบบหนีบของ 3M ครับ ข้อดีคือไม่ต้องบัดกรี รวดเร็วและสะดวกมากครับ จะเป็นแบบนี้นะครับ 

ใช้เทปพันสายไฟพันเก็บให้เรียบร้อยเท่านี้ก็เป็นอันเสร็จครับ ปิดฝาครอบพลาสติกกลับเข้าที่ก็สำเร็จครับ


และแล้วในที่สุดเราก็จะได้โคมแบบ US Spec ในโคมเดิมของเราโดยที่เราไม่ต้องไปซื้อโคมใหม่เลยครับ 






ข้อควรระวังสำหรับการ DIY ในครั้งนี้
1. ในขั้นตอนการเจาะ ควรวางตำแหน่งการเจาะให้ได้กึ่งกลางนะครับ
2. การเจาะจะมีเศษของพลาสติกสีดำเข้าไปในโคม หลังจากเจาะเสร็จควรดูดออกด้วยเครื่องดูดฝุ่นนะครับ
3. ควรหาผ้ามารองโคมตลอดเวลาการทำงานนะครับไม่งั้นโคมเราจะเป็นรอยได้นะครับ
4. ในตอนต่อสายไฟควรปิดไฟหรี่ก่อนนะครับ 
5. สำหรับพี่ที่ใช้หลอดแบบ LED หากใส่แล้วไม่ติดลองถอดหลอดแล้วสลับข้างดูก่อนนะครับ หลอดถึงจะติดครับ

ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามนะครับ ขอให้มีความสุขในการ DIY ในครั้งนี้ครับ


























วันอาทิตย์ที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2558

Sport Side Visor Autoexe

สวัสดีครับพี่ๆสมาชิกทุกท่าน สำหรับรีวิวในครั้งนี้จะเป็นการรีวิวอุปกรณ์อีกชิ้นจากค่ายตกแต่งค่ายดังที่ทำอุปกรณ์ตรงรุ่น Mazda ซึ่งนั้นก็คือ Autoexe ครับ 
สำหรับอุกรณ์ตกแต่งชิ้นนี้ก็คือ Sports side visor ครับ หรือที่เราเรียกติดปากกันว่ากันสาดครับหรือ Whether guard ครับ แน่นอนว่าอุปกรณ์ใดที่ตีตราของ Autoexe แล้วย่อมไม่ธรรมดาครับ เรามาดูกันเลยดีกว่าครับว่า Sports side visor ของ Autoexe นั้นเป็นอย่างไรครับ 
เปิดกล่องมาสิ่งที่เราจะพบก็คือ 
sports side visor ชิ้นหน้า 2 ชิ้น ชิ้นหลัง 2 ชิ้น หมุดและกิ๊ปลอคพลาสติก และสุดท้ายคือคู่มือชี้แจงรายละเอียดและการติดตั้งครับ

มาเข้าสูการรีวิวกันดีกว่าครับว่าแตกต่างกับแบบธรรมดาอย่างไรครับ
1. ขนาดของ Sports side visor ของ Autoexe จะมีความกว้างมากกว่าแบบ ธรรมดาครับ

2. ความใสของเนื้อพลาสติกของ Autoexe มีความใสมากกว่าครับ

3. มีการออกแบบการไหลของลมให้มีการไหลของลมได้ดีเป็นพิเศษและยังช่วยให้เกิดความสวยงามมากขึ้นด้วยครับ

ส่วนการติดตั้งก็สามารถติดตั้งเองได้อย่างไม่ยากเลยครับ ในคู่มือจะมีวิธีการติดอย่างละเอียดเลยครับ 


หลักจากติดตั้งแล้วก็จะได้ออกมาแบบนี้ครับ

โดยสรุปความเห็นส่วนตัวถือได้ว่าอุปกรณ์ชิ้นนี้เป็นอุปกรณ์ที่ถือได้ว่าแปลกอีกชิ้นนึงครับ เนื่องจากเป็นอุปกรณ์ที่มีการออกแบบเรื่องอากาศพลศาสตร์มาเป็นอย่างดีจึงทำให้รูปทรงที่ได้ไม่เหมือนกับกันสาดธรรมดาแบบทั่วไปครับ มีความสวยงาม เรียกได้ว่าใครได้เห็นก็ต้องสะดุดตาแน่นอนครับ และที่สำคัญจากที่ได้ฟังการทดสอบการวิ่งและเสียงของลมที่เข้ามาปะทะที่ Sports side visor ตัวนี่ก็ต้องขอบอกว่าเงียบมากเมื่อเทียบกับแบบธรรมดาทั่วไปครับ 
ท้ายที่สุดนี้ต้องขอขอบคุณพี่แต๋งที่สั่งอุปกรณ์ดีๆมาให้ได้มารีวิวเป็นคนแรกและคันแรกในไทยอีกเหมือนเดิมครับ ปล.ขอบคุณพี่น้อยที่ช่วยจัดการเรื่องอุปกรณ์ของ Autoexe ชิ้นนี้ด้วยนะครับ

ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามครับ









วันศุกร์ที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2558

รีวิว : ท่อไอเสีย Blitz สำหรับ Mazda CX-5



         
CX-5 ของผมกับท่อไอเสียใหม่ของ Blitz ครับ
รูปตอนกำลังใส่ท่อไอเสียใหม่ครับ
        
สวัสดีครับ        
        หลังจากใช้เวลาในการตัดสินใจเรื่องของท่อไอเสียเป็นเวลานานในที่สุดผมก็ได้ข้อสรุปกับท่อไอเสียที่ผมจะนำมารีวิวให้เพื่อนๆที่ๆได้ฟังกันในวันนี้ครับ ซึ่งท่อไอเสียที่ผมเลือกก็คือท่อไอเสียของ Blitz รุ่น Nur-Spec C-Ti ครับ ซึ่งสิ่งที่ผมใช้ในการตัดสินใจเลือกท่อรุ่นนี้ก็เพราะว่า 
1.มีขนาดของปลายท่อไอเสียที่ใหญ่ที่สุดที่สามารถเข้าได้กับกันชนท้ายของเราได้อย่างพอดีที่สุดครับ 2.มีความสวยงามจากปลายท่อไอเสียแบบไทเทเนียมครับ
3.คาดว่าน่าจะเก็บเสียงได้ดีใกล้เคียงท่อเดิมเพราะว่าผมไม่อยากได้ท่อไอเสียเสียงดังจึงเลือกท่อที่มีหม้อพักที่ค่อนข้างใหญ่ครับ
         เข้าเรื่องรีวิวกันเลยดีกว่าครับ รีวิวในครั้งนี้จะไม่ขอเปรียบเทียบกับท่อไอเสียของยี่ห้ออื่นๆนะครับ ขอพูดเรื่องท่อของ Blitz และท่อของเดิมเท่านั้นครับ


ในรูปจะเป็นการเทียบท่อไอเสียใหม่กับท่อไอเสียเดิมนะครับ ซึ่งสิ่งที่แตกต่างกันจะมีดังนี้ครับ
1. วัสดุที่ใช้ทำท่อใหม่จะทำจากแสตนเลสและไทเทเนียมครับ ของเดิมจะเป็นเหล็กและแสตนเลสครับ
2. การออกแบบหม้อพักของใหม่จะเป็นทรงกระบอกส่วนของเดิมจะเป็นแบบแบนสีเหลี่ยมครับ
3. ขนาดของเส้นผ่านศูนย์กลางของท่อไอเสียใหม่จะใหญ่กว่าท่อไอเสียเดิมครับ
4. ขนาดของเส้นผ่านศูนย์กลางของส่วนปลายท่อไอเสียของใหม่ใหญ่กว่าของเดิมอีก 37 มม.ครับ
5. น้ำหนักของท่อไอเสียใหม่จะเบากว่าของเดิมอยู่ 1.5 กก.ครับ

ท่อไอเสีย Blitz Nur-Spce C-Ti

ปลายท่อไอเสียแบบไทเทเนียม


ชั่งน้ำหนักท่อเดิมของรถ CX-5

น้ำหนักของท่อไอเสียเดิมของ CX-5 ประมาณ 9.8 กก.ครับ
ชั่งน้ำหนักของท่อไอเสีย Blitz CX-5

น้ำหนักของท่อไอเสีย Blitz ที่ชั่งได้คือ 8.5 กก.ครับ
















วันจันทร์ที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2558

เปลี่ยนสีฝาครอบเครื่องยนต์ Mazda CX-5 ให้สวยโดดเด่น

สวัสดีครับพี่ๆสมาชิกทุกท่าน

        สำหรับวันนี้ผมจะมานำเสนอวิธีการ DIY ทำสีฝาครอบเครื่องยนต์ของเราให้เป็นสีฟ้าแบบเมทัลลิคแบบสามารถลอกออกได้ด้วยสีของ Plastidip ครับ
ก่อนอื่นเอาผลงานให้ดูก่อนครับว่าทำออกมาแล้วจะเป็นอย่างไรครับ


เรามาเริ่มกันเลยดีกว่าครับ ก่อนอื่น เครื่องมือและอุปกรณ์ที่เราจะต้องมีนะครับ
1. สี Plastidip หรือ จะเป็นของยี่ห้ออะไรก็ได้นะครับที่เราชอบ 
2. กระดาษกาว
3. หนังสือพิมพ์
4. น้ำยาเช็ดทำความสะอาดคราบ หรือ แอลกอฮอล์เช็ดแผล
5. น้ำยาล้างจาน
6. ผ้า
7. ฟองน้ำ

หลังจากที่อุปกรณ์และเครื่องมือของเราพร้อมแล้วเราไปลุยกันเลยดีกว่าครับ
1. ถอดฝาครอบเครื่องออกตอนถอดหากรถเพิ่งวิ่งมาก็ระวังร้อนด้วยนะครับ
2. ล้างทำความสะอาดด้วยน้ำยาล้างจานกับฟองน้ำครับ
3. เช็ดทำความสะอาดให้แห้งครับ

4. หลังจากเช็ดแห้งแล้วเราก็ติดกระดาษกาวในส่วนที่เราไม่ต้องการพ่นครับ

5. หลังจากนั้นเราก็เช็ดทำความสะอาดคราบอีกครั้งก่อนพ่นสีด้วยน้ำยาเช็ดคราบไขมันครับ ใครไม่มีใช้แอลกแฮอล์ก็ได้นะครับง่ายดีครับ เวลาใช็ดก็ไม่ต้องเช็ดเยอะมากนะครับเอาพอหมาดพอนะครับ
6.เวลาที่เราจะพ่นก็ค่อยๆพ่นโปรยไปก่อนนะครับ อย่าพ่นให้ฉ่ำทีเดียวนะครับไม่งั้นสีอาจจะไหลหรือไม่เรียบเนียนได้ครับ ในรูปของผมที่ใช้เป็น 2 กระป๋องกระป๋องนึงเป็นสีธรรมดาส่วนอีกกระป๋องใช้พ่นเคลือบเพื่อให้เกิดเป็นประกายของสีครับ

7. หลังจากพ่นเสร็จแล้วก็รีบแกะกระดาษกาวออกนะครับขอบรอยตัดของสีจะได้สวยๆคมๆครับ

เท่านี้ก็เสร็จเรียบร้อยเราก็จะได้ฝาครอบเครื่องยนต์ในแบบที่เราต้องการครับ



ขอขอบคุณพี่ๆทุกท่านที่ติดตามนะครับ ขอให้สนุกกับการ DIY รถของเราเองนะครับ